เอาข้อเสียมาก่อนเลย .. พูด !!
เอาหัวข้อนี้ขึ้นก่อนเลยละกัน เพราะคนเราชอบหาข้อเสียก่อน แล้วค่อยหาข้อดี เพราะถ้าข้อเสีย Line Mobile มันใช่ ที่เหลือ Line Mobile ดียังไง ก็ค่อยว่ากันเนาะ อิอิ
- ในพื้นที่ ที่สัญญาณดีแทคไม่มี ก็ขึ้น No Service เลย เพราะ Line Mobile ใช้เสาดีแทค
- แม้จะจับสัญญาณ 4G ได้เต็ม และเนตเต็มสปัดยังใช้ไม่หมด แต่ถ้าไม่ได้ ปิดโหมดเนตฟรี สัญญาณโทรไลน์จะอ่อนจนคุยไม่รู้เรื่อง
- เข้าใจผิด มาตลอดว่า ดู Line TV ได้ฟรี ด้วยเนตเต็มสปีด โดยที่ระบบจะไม่ไปหักปริมาณเนตเต็มสปีดออก แต่ที่จริงหักออกจร้าาาา
- ราคาแพคเกจ Line Mobile เทียบกับสิ่งที่ได้ แพงนะ (เมื่อคิดจากราคาเต็มที่ผมต้องเตรียมจ่ายรอบบิลแรก มกราคม 2561)
ข้อดีของ Line Mobile บ้าง
ข้อดีก็มีเยอะนะ ถ้าไลฟ์สไตล์ของคุณตรงกับรูปแบบบริการที่ Line Mobile มีให้ ก็จัด Line Mobile มาครอบครองได้เลย
- ทุกอย่างง่ายไปหมด อันนี้เรื่องจริง สั่งซื้อง่ายมาก เข้าเว็บ Line Mobile > เลือกแพคเกจ > เลือกเบอร์ > จ่ายเงินด้วยบัตรเดบิต หรือ Line Pay จบปึ้ง ซิมจัดส่งถึงบ้านโดย Kerry ภายใน 2 วัน
ได้ซิมแล้ว ใส่เครื่อง เปิดแอพ Line Mobile (ดาวโหลดได้จากทั้ง iOS และ Android) แล้วถ่ายรูปตัวเองถือบัตรประชาชน เพื่อลงทะเบียนซิม ใช้งานได้ทันที .. เหอออ เร็วโคตรรรรร
การควบคุมก็โคตรง่าย มีแค่ 2 หน้าจอ คือ แดชบอร์ด (หน้าสรุปข้อมูลนั่นหละ) กับ หน้าควบคุม
หน้าควบคุม คือ จุดเด่น เพราะมีแค่ 2 ส่วนให้ควบคุม คือ
1. จะใช้เนตโหมดไหน ? (โหมดฟรี หรือ โหมดเต็มสปีด)
2. ค่าใช้จ่ายส่วนเกินจะให้ไม่เกินเท่าไหร่ ? อันนี้ดีมาก เพราะผมเปิดโหมดนี้ไว้ และ กำหนดไว้ให้อย่าเกิน 1 บาท พอจะโทรออกเกินมันลอคเลย ดีงามมาก
- ติดต่อ Call Center ได้ทั้งแบบโทรหาปกติที่เบอร์ 02-2028585 (09.00 - 18.00 น.) และ แชท (24 ชั่วโมงครับ) ซึ่งผมเคยติดต่อไปแค่ครั้งเดียวแค่นั้น (ลองทักว่ามันจะเป็นไง อิอิ) นอกนั้นมันยังไม่มีอะไรให้ติดต่อไง เพราะไม่มีอะไรซับซ้อนให้ผมมีคำถามเลย
- คุณภาพสัญญาณการใช้เนตเพื่อ Social , เว็บไซต์ , ดาวโหลด นี่ให้ 9 เต็ม 10 แต่ต้องจับสัญญาณได้เต็มและขึ้น 4G LTE นะ
แต่ที่ให้ 9 คะแนน เพราะสัญญาณนางสวิงเหวี่ยงกิ้งเหลือเกิน แต่ถึงจะเหวี่ยง 4 ขีด - 3 ขีด - 2 ขีด เออ มันก็ยังไหลลื่นไปได้ปกติ แต่แบบนี้ไม่ดีแน่ ถ้าเราต้องดู Youtube , Line TV , Live ซึ่งถ้าใช้โหมดเนตเต็มสปีดจะไม่พบการกระตุก
แต่ถ้าติด FUP ที่โหมดฟรีที่ 256 kbps เมื่อไหร่ การดู Youtube , Line TV ก็จะมีอาการกระตุกเป็นช่วง ๆ จนถึง หมุนตะลิ่ว ติ๊ว ติ้ว หมุนวนไปคะ
- อะไร ๆ ที่เป็นการรับและส่งแสดงผลข้อมูล ประเภทข้อความ ที่โหมดฟรี ความเร็ว 256 kpbs เช่น การเปิดเว็บไซต์ , ฟีด facebook ที่แสดงผลข้อความ , ส่งข้อความไลน์ รวดเร็วทันใจดีแท้ แต่ถ้าเป็นรูปขนาดใหญ่ จะต้องรอหน่อย (ประมาณ 5-10 วินาที)
ในขณะที่ถ้าโทรไลน์ จะมีกระตุกบ้าง อาการหนักจนฟังไม่รู้เรื่อง และ ดู youtube จะได้ที่ความละเอียดต่ำ จนถึงเปิดไม่ได้ ส่วน Line TV กลับไหลลื่นแฮะ (อ่อ ก็บริการของเค้าเองนิ อิอิ มันก็ต้องลำเอียงกันบ้าง)
ส่วนคลิปวีดีโอใน facebook , twitter , ig จะต้องรอประมาณ 10-15 วินาที ในการเริ่มต้นเล่น แต่พอเล่นไปแล้ว เออ .. มันก็ไหลของมันไปลื่น ๆ แฮะ
- การชำระเงินก็ง่าย จ่ายผ่านแอพ Line Mobile ด้วยบัตรเดบิต / เครดิต เหมือนเดิม จ่ายเสร็จแล้วมีใบเสร็จกระดาษส่งมาให้ด้วย สบาย ง่าย ดี ชอบนะจุดนี้
สรุป Line Mobile น่าใช้ไหม ?
ต้องดูไลฟ์ไสตล์ พื้นที่สัญญาณ และ งบประมาณของตัวคุณเองครับ ผมตอบแทนไม่ได้ แต่ในความรู้สึกส่วนตัวของผม ผมว่า มันดีกว่าดีแทคเยอะ ทั้งในเรื่องการบริการ , ความง่าย , คุณภาพสัญญาณ (ทีม Line Mobile แยกออกจากดีแทค แม้จะใช้เสาเดียวกันนะครับ) และ เพราะผมอยู่ในพื้นที่ที่ Line Mobile มาปรับปรุงจูนเครือข่ายแล้วมั๊ง (และคนอาจใช้น้อยอยู่) ผมเลยไม่พบปัญหาใหญ่ ๆ จนต้องอยากยกเลิกบริการ
แต่ .. จะยกเลิก ก็ตอนที่จ่ายเต็มนี่แหละครับ 555+ เพราะแพคเกจถูกที่สุด รวมภาษีแล้ว ยังสูงถึง 319.93 บาท / เดือน แหนะ คือ ถ้ามาราคานี้ ผมมั่นใจว่า ผมยกเลิกบริการแน่นอน
เพราะจำนวนเงินเท่ากัน ผมซื้อเนตความเร็วจำกัดสปีด แต่ไม่จำกัดปริมาณ 4 Mbps. ของ True ยังเหลือเงินทอนมาอีกเกือบ 100 บาท และใช้บริการได้ทุกอย่างเหมือนที่ Line Mobile มีอีกด้วย
ตอนนี้ ตลาดมาเล่นที่ความพึงพอใจของผู้บริโภคส่วนใหญ่ ต่อ ความเร็วเน็ตแล้วนะครับ
ไม่ต้องเนตเต็มสปีด 21 / 42 mbps หรอกครับ ขอแค่แบบ Ais หรือ True ที่มาจับซิมแบบไม่จำกัดปริมาณ (เพราะผู้บริโภคไม่ชอบให้จำกัดปริมาณ) แต่จำกัดความเร็ว (แต่ผู้บริโภคไม่รู้สึกถึงความช้าเลย)
ตอนนี้ทั้ง 2 ค่าย มาลงตัวแพคเกจความเร็ว 4 Mbps (220 บาท) และ 6 Mbps (400 บาท) ขายดิบ ขายดี ตามหาซิมกันให้ป่วนประเทศเลยหละ ตรงจุดนี้ทีม Line Mobile ต้องเอาไปทำการบ้านให้ดีหละครับ ไม่งั้นจะไม่รุ่งน๊าาาา