ความลับที่ชีวิตเผยให้ผมได้เรียนรู้ในวัย 40 ปลาย ๆ ก็ คือ ขนาดของความสุขไม่ได้ใหญ่โตเกินกว่า "ขนาดของหัวใจเรา".
โลกไม่ได้กว้าง และชีวิตก็ไม่ได้มีภาระอะไรมากไปกว่า .. การรักษาพื้นที่สวนหย่อมในใจของเราให้สะอาด สวยงาม
เวลายิ่งใหญ่ก็จริง แต่ก็มีให้เราทุกคน ได้แค่ครั้งละ "วินาที" ไม่ได้ให้มากไป ไม่ได้มีน้อยไป
.
.
ขอแค่ในทุกวัน เราได้ให้กายเรานิ่งสงบเงียบ ๆ สักครู่หนึ่ง ไม่เคลื่อนไหว นอกจากหายใจ แล้วหลับตา คิดถึงความคาดหวังของวันนี้ ที่อาจไม่ได้ดังหวัง
เย็นวันนี้
อาจไม่ได้สุขอย่างที่คิดนะเว้ย
พรุ่งนี้
อาจไม่ได้เป็นอย่างที่หวังนะแก
ประครองความคิดนี้ไว้สักครู่ ให้เจ้าความสุข ที่อิ่มความคาดหวังจนพองโตนั้น ให้มันมีขนาดน้อยลง ลดลง ลดลง
จนขนาดมันพอดีกับขนาดของหัวใจ ปุ๊ป ความสุขมันจะหย่อนลงในหัวใจเรา
เอาให้มันอยู่ในใจเราแบบนั้นสักครู่หนึ่งนะ แปัปหนึ่ง ผมขอร้อง
.
.
พอได้สักพัก คุณก็ปล่อยมันพองโตไปเหมือนเดิม ถ้าคุณต้องการ เย็นวันนี้ .. ฉันจะแฮปปี้สุด ๆ พรุ่งนี้จะต้องได้รับข่าวดีอย่างที่หวัง เอาที่คุณสบายใจ
.
.
แต่การที่เราให้ความสุขมันพอดีกับพื้นที่ในใจของเรา ให้ได้แค่ 1 วินาที ก็เท่ากับการได้รับชดเชยพันล้านวินาที่ ที่เราได้เสียไปให้กับความทุกข์ใจแล้วหละ
การนิ่งสงบสักครู่ มันช่วยให้จิตใต้สำนึกของเราได้ตระหนักว่า
เพราะทุกสิ่งเป็นแค่เรื่องชั่วคราว ทุกอย่างผ่านมาแล้วก็จะจากไป ไม่มีอะไร ไม่มีใคร ไม่มีสิ่งใด อยู่กับเรา หรือ เราจะอยู่กับมันได้ตลอดไป
แต่แม้ว่า .. ทุกสิ่งจะเป็นแค่ความสุขชั่วคราว และมีขนาดได้แค่เท่ากับพื้นที่ของหัวใจ
แต่กระนั้น .. ชีวิตก็ปรารถนาให้เราใช้ทุกวินาทีไปในแบบนั้นตลอดไป เพราะชีวิตที่ดี คือ ชีวิตที่มีความสุขแบบพอดี